1. ซอฟต์แวร์ควบคุมคอมพิวเตอร์ช่วยในการควบคุมคุณภาพ
การควบคุมคุณภาพ ( Quality Control ) มักจะใช้การตรวจเช็คด้วยมือ โดยใช้หลักการทางสถิติเข้าช่วย โอกาสที่จะมีชิ้นงานหรือสินค้าซึ่งมีคุณภาพไม่ผ่านการตรวจเช็คหลุดออกไปก็มี และจุดอ่อนที่สำคัญที่สุดในการควบคุมคุณภาพลักษณะนี้ก็คือ การตรวจเช็คจะทำก็ต่อเมื่อชิ้นงานเสร็จแล้ว ดังนั้นหากตรวจพบความผิดพลาดก็ต้องกลับไปแก้ไขตั้งแต่จุดเริ่มต้น
เมื่อระบบไมโครโปรเซสเซอร์ก้าวหน้าขึ้น อีกทั้งอุปกรณ์หัววัด ( Sensor ) ได้รับการพัฒนาประยุกต์ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทำให้มีการพัฒนาใช้ระบบคอมพิวเตอร์ช่วยในการควบคุมคุณภาพขึ้น
2.วัตถุประสงค์การใช้ซอฟต์แวร์ควบคุมคอมพิวเตอร์ในการควบคุมคุณภาพ
1. เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในระดับนักเรียน นิสิต นักศึกษา
2.เพื่อพัฒนาทักษะความคิดริเริ่มในการเขียนโปรแกรมอันจะเป็นรากฐานที่สำคัญยิ่งต่อการพัฒนา อุตสาหกรรมด้านซอฟต์แวในอนาคต
3. เพื่อสร้างและพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถทางด้านการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ให้สามารถเกิดประโยชน์ในการนำไปใช้ต่อไป
4. เพื่อสร้างเวทีการแข่งขันและสร้างความสนใจสำหรับเยาวชนที่มีความสามารถด้านคอมพิวเตอร์และเทคนิคการเขียนโปรแกรม
5. เพื่อให้ได้ซอฟต์แวร์ต้นแบบที่หลากหลายซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง
3. การเช็คโดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์ช่วยมีกี่ประเภทอะไรบ้าง
การตรวจเช็คโดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์ช่วยมี 2 ประเภท ได้แก่
1. แบบสัมผัส
2. แบบไม่สัมผัส
การตรวจเช็คด้วยอุปกรณ์หัววัดแบบสัมผัส
• โดยอาศัยเครื่องมือวัดตำแหน่ง
• โดยอาศัยหัววัดทางกล ( Mechanical Probes )
การตรวจเช็คด้วยอุปกรณ์หัววัดแบบสัมผัส
ใช้ในกรณีที่ต้องการทราบขนาดของชิ้นงานอย่างละเอียด โดยอุปกรณ์ที่ใช้กันมากคือ เครื่องมือวัดพิกัด ( Coordinate Measuring Machine : CMM )
การตรวจเช็คแบบไม่สัมผัส
1. ใช้เทคนิคทางแสง
• Machine Vision
• Scanning Laser Beam Devices
• Photogrmametry
2. ไม่ใช้เทคนิคทางแสง
• เทคนิคทางสนามไฟฟ้า
• เทคนิคทางรังสี
• เทคนิคทางคลื่นเสียงความถี่สูง

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น