วันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

บทที่ 13


      1.     ซอฟต์แวร์ควบคุมคอมพิวเตอร์ช่วยในการควบคุมคุณภาพ
 การควบคุมคุณภาพ ( Quality Control ) มักจะใช้การตรวจเช็คด้วยมือ โดยใช้หลักการทางสถิติเข้าช่วย โอกาสที่จะมีชิ้นงานหรือสินค้าซึ่งมีคุณภาพไม่ผ่านการตรวจเช็คหลุดออกไปก็มี  และจุดอ่อนที่สำคัญที่สุดในการควบคุมคุณภาพลักษณะนี้ก็คือ การตรวจเช็คจะทำก็ต่อเมื่อชิ้นงานเสร็จแล้ว ดังนั้นหากตรวจพบความผิดพลาดก็ต้องกลับไปแก้ไขตั้งแต่จุดเริ่มต้น
            เมื่อระบบไมโครโปรเซสเซอร์ก้าวหน้าขึ้น อีกทั้งอุปกรณ์หัววัด ( Sensor ) ได้รับการพัฒนาประยุกต์ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทำให้มีการพัฒนาใช้ระบบคอมพิวเตอร์ช่วยในการควบคุมคุณภาพขึ้น 
 


2.วัตถุประสงค์การใช้ซอฟต์แวร์ควบคุมคอมพิวเตอร์ในการควบคุมคุณภาพ
1. เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในระดับนักเรียน นิสิต นักศึกษา
2.เพื่อพัฒนาทักษะความคิดริเริ่มในการเขียนโปรแกรมอันจะเป็นรากฐานที่สำคัญยิ่งต่อการพัฒนา         อุตสาหกรรมด้านซอฟต์แวในอนาคต
3. เพื่อสร้างและพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถทางด้านการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ให้สามารถเกิดประโยชน์ในการนำไปใช้ต่อไป
4. เพื่อสร้างเวทีการแข่งขันและสร้างความสนใจสำหรับเยาวชนที่มีความสามารถด้านคอมพิวเตอร์และเทคนิคการเขียนโปรแกรม
5. เพื่อให้ได้ซอฟต์แวร์ต้นแบบที่หลากหลายซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง





3. การเช็คโดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์ช่วยมีกี่ประเภทอะไรบ้าง


การตรวจเช็คโดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์ช่วยมี 2 ประเภท ได้แก่

1. แบบสัมผัส
2. แบบไม่สัมผัส
  

การตรวจเช็คด้วยอุปกรณ์หัววัดแบบสัมผัส

          โดยอาศัยเครื่องมือวัดตำแหน่ง
           โดยอาศัยหัววัดทางกล ( Mechanical Probes )
  
การตรวจเช็คด้วยอุปกรณ์หัววัดแบบสัมผัส
 ใช้ในกรณีที่ต้องการทราบขนาดของชิ้นงานอย่างละเอียด โดยอุปกรณ์ที่ใช้กันมากคือ  เครื่องมือวัดพิกัด ( Coordinate Measuring Machine  :  CMM )
  
การตรวจเช็คแบบไม่สัมผัส

1. ใช้เทคนิคทางแสง
     Machine Vision
     Scanning Laser Beam Devices
     Photogrmametry
2. ไม่ใช้เทคนิคทางแสง
      เทคนิคทางสนามไฟฟ้า
      เทคนิคทางรังสี
      เทคนิคทางคลื่นเสียงความถี่สูง




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น